รีวิวไปชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงที่ Naejangsan National Park
สวัสดีครับ บทความนี้จะพาทุกคนไปเที่ยวและชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงสวยๆ ที่อุทยานแห่งชาติเนจังซานหรือ Naejangsan National Park ที่เมืองจองอึพ (Jeongeup) จังหวัดชอลลาบุกโด (Jeollabuk-do) ซึ่งที่นี่เป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดในประเทศเกาหลีใต้เลย คนไทยหลายๆ คนอาจจะยังไม่ค่อยได้ไปเที่ยวกัน วันนี้ผมจะรีวิวจบในบทความนี้แบบไปเที่ยวเองไม่ต้องชะโงกทัวร์ อ่านจบแล้วสามารถตามไปเที่ยวกันเองแบบง่ายๆ ได้เลยครับ
รู้จัก Naejangsan National Park กันก่อน
เนจังซาน (Naejangsan) เป็นหนึ่งในภูเขาที่มีชื่อเสียงในจังหวัดชอลลาเหนือ (ชอลลาบุกโด) ถูกตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 7 ของเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ฝั่งตะวันตกของเกาหลีใต้ มีเนื้อที่กว่า 81 ตารางกิโลเมตร ที่นี่มีชื่อเสียงมากในการมาเที่ยวชมดูใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะที่นี่มีต้นไม้หลากหลายนานาพันธุ์มากกว่า 760 ชนิดโดยเฉพาะต้นเมเปิ้ลจะพบมากที่นี่เป็นพิเศษ ถ้าใครที่ชอบมาดูใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ ต้องไม่พลาดมาเที่ยวที่นี่ซักครั้งในชีวิตนะครับ
การเดินทางมาที่ Naejangsan National Park
อุทยานแห่งชาติเนจังซานตั้งอยู่คาบเกี่ยวระหว่างสองเมืองของจังหวัดชอลลาบุกโด นั่นคือเมืองจองอึพ (Jeongeup) และเมืองซุนชั่ง (Sunchang) สามารถเดินทางมาได้หลายเส้นทาง แต่เส้นทางที่ได้รับความนิยมและเดินทางมาสะดวกที่สุดก็คือการมาจากเมืองจองอึพ (Jeongeup) ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ในจังหวัดชอลลาบุกโด ซึ่งถ้าใครที่จะมาจากโซลนั้นสามารถนั่งรถไฟความเร็วสูง KTX หรือ SRT มาลงที่สถานี Jeongeup แล้วต่อรถบัสไปที่อุทยานฯ ได้เลย ใช้เวลาเดินทางราวๆ 3 ชม. ครับ สามารถเช็คและจองรถไฟได้จากเว็บไซต์ของ KTX ที่ https://www.letskorail.com/ หรือของ SRT ที่ https://etk.srail.kr/ ได้เลย
ส่วนในบทความนี้นั้น ส่วนตัวผมได้มีโอกาสมาเที่ยวในโซนจังหวัดชอลลาอยู่แล้ว และพักอยู่ที่เมือง Gwangju ซึ่งอยู่ใกล้ๆ เมือง Jeongeup เลยเลยสามารถเดินทางจากเมือง Gwangju มายังเมือง Jeongeup ได้ในระยะเวลาเพียง 18 นาทีด้วยการขึ้นรถไฟ SRT และมาต่อรถเมล์เพื่อไปยังอุทยานแห่งชาติเนจังซานอีกราวๆ 40–50 นาทีครับ เรียกว่าประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยทีเดียว
รีวิวการเดินทางจาก Gwangju — Naejangsan National Park
เริ่มต้นผมเดินทางจากเมือง Gwangju มายังสถานี Jeongeup ด้วยรถไฟความเร็วสูง SRT ใช้เวลาเดินทางเพียง 18 นาทีเท่านั้น ค่าโดยสาร 7,500 วอน (ประมาณ 200 บาท)
ผมเริ่มต้นที่มาขึ้นรถไฟที่สถานี Gwangju-Songjeong Station ซึ่งเป็นสถานีรถไฟความเร็วสูงของเมือง Gwangju ครับ (นั่งรถไฟใต้ดินมาลงได้เลย)
นั่งรถไฟความเร็วสูง SRT มาได้เพียง 18 นาทีรถไฟก็มาจอดที่สถานี Jeongeup ให้เราลงที่สถานีนี้และเดินออกมาจากสถานีข้ามถนนแล้วเดินตรงมาเรื่อยๆ จะเจอป้ายรถเมล์ที่จะพาเราไปยังอุทยานแห่งชาติเนจังซานได้ครับ
เมื่อเดินมาเรื่อยๆ ประมาณ 5 นาทีก็จะมาถึงป้ายรถเมล์ ป้ายรถเมล์ 정읍역 (Jeongeup Station) ป้ายชื่อเดียวกับสถานีรถไฟนะครับ แต่จะมีเขียนที่ป้ายเป็นภาษาเกาหลีไว้เลยว่า “171번 내장산 버스 타는 곳” ซึ่งแปลว่า “ป้ายรถเมล์สาย 171 ที่ไปยังอุทยานแห่งชาติเนจังซาน” ก็ให้เรารอที่ป้ายนี้ได้เลย ผมถ่ายตารางรถเมล์มาให้ด้วยครับ เพราะรถเมล์สาย 171 จะไม่ได้ถี่มาก โดยรถจะมาทุกๆ ครึ่งชม.นะครับ ดังนั้นถ้าใครมาไม่ทันก็อาจจะต้องรอรถเมล์นานหน่อยครับ
ผมรอรถเมล์อยู่พักนึง รถก็มาแล้วครับ มีคนรอขึ้นอยู่เยอะเลย รถจะสีส้มๆ แบบนี้นะครับ ใช้บัตร T-Money แตะขึ้นได้เลย ค่าโดยสารถ้าจำไม่ผิด 1,250 วอน บนรถอาจจะไม่มีเสียงประกาศป้ายที่จอดเหมือนรถเมล์ในโซลนะครับ เพราะเป็นรถเมล์ท้องถิ่น ให้เรานั่งจนสุดสายเลยรถจะจอดป้ายสุดท้ายที่ป้ายที่ชื่อว่าเนจังซาน (내장산) และจะเป็นป้ายที่มีคนลงเยอะที่สุดครับ
หลังจากที่นั่ง (จริงๆ คือยืนเพราะแบ่งที่นั่งคุณลุงคุณป้านั่งกัน เรายืนยาวๆ ครับ 55+) มาได้ราวๆ 1 ชม. ก็มาถึงที่เนจังซานแล้วครับ ตรงนี้จะยังไม่ใช่เขตของอุทยานนะครับ จะเป็นฟีลตลาดๆ ร้านค้าขายของ ร้านอาหารครับ เราจะเดินจากตรงนี้เข้าอุทยานก็ราวๆ 1 km กว่าๆ ครับ ข้างๆ ทางจะเต็มไปด้วยร้านรวงต่างๆ ของกินเพียบครับ แต่แนะนำให้มาทานขากลับน่าจะดีกว่าครับ (รีบเข้าไปอุทยานก่อนคนจะเยอะครับ)
เดินตรงมาเรื่อยๆ ก็จะเจอทางเข้าอุทยานแล้วครับ เดินชิดขวาเข้าไปเลยครับ ซึ่งถ้าใครที่คิดว่าเห็นทางเข้าแล้วจะมาถึงอุทยานก็ถูกครึ่งหนึ่งครับ เพราะมันยังไม่ถึงจุดที่จะเข้าไปเที่ยวชมอุทยานจริงๆ เราจะเดินตรงต่อเข้าไปก็ได้อีกราวๆ 2km หรือถ้าใครที่ขี้เกียจเดินก็สามารถซื้อตั๋วรถ Shuttle Bus (순환버스) นั่งเข้าไปได้ครับ ราคาคนละ 1,000 วอนเอง ส่วนตัวผมแนะนำให้นั่งรถเข้าไปและขากลับค่อยเดินกลับมาจะดีกว่าครับ เพราะคนจะเยอะมากตอนขาเข้าครับ ผมเลือกที่จะนั่งบัสเข้าไป ต่อคิวไม่เกิน 5 นาทีก็ได้ขึ้นแล้วครับ
รถ Shuttle Bus จะพาเรามาส่งลงตรงบริเวณ Naejangsan National Park Visitor Center ซึ่งเป็นจุดให้บริการนักท่องเที่ยว ให้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ทั้งคนที่มาท่องเที่ยวปกติและคนที่อยากจะมา Hiking ที่นี่ก็ทำได้เช่นกัน
Trip Plan ของผม
แพลนเที่ยวของผมที่อุทยานแห่งชาติเนจังซาน ผมตั้งใจว่าอยากจะมา Hiking ที่นี่ดูซักครั้ง โดยเลือก Trail ที่ใช้ระยะเวลา Hiking ไม่นานนัก ผมเลือกจะเดิน Hiking จากวัด Naejangsa ขึ้นไปยังจุดชมวิว Observatory Platform (전망대) และเดิน Hike ต่อขึ้นไปยัง Yeonjabong Peak แล้วค่อยเดินมาขึ้น Cable Car ลงมาชมวิวด้านล่างอีกที ก็จะใช้เวลา Hike รวมๆ ประมาณ 2–3 ชม. กำลังดีครับ
ผมเริ่มต้นด้วยการเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีด้านหน้าวัดเนจังซาก่อน วิวสวยมากๆ ครับ ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองแดงสวยงามมาก
ที่อุทยานแห่งชาติเนจังซาน จะมีวัดพุทธอายุเก่าแก่มากกว่า600 ปี ชื่อว่าวัดเนจังซา ตั้งอยู่ภายในอุทยาน ห้อมล้อมไปด้วยภูเขาเนจังซาน บรรยากาศสงบร่มรื่นดีมากครับ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมวัดแห่งนี้ไม่ขาดสายเลย
ผมเดินต่อออกจากวัดและเลี้ยวซ้ายขึ้นไปตาม Hiking Trail 800m เพื่อเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวชอนมังแดด้านบน แรกๆ ทางดีเลยครับ และค่อยๆ ไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ เล่นเอาเหนื่อยใช้ได้เลย
ระหว่างทางก็จะได้เจอกับ Hiker ท้องถิ่นมากมาย เป็นกิจกรรมที่คนเกาหลีชอบมาทำร่วมกันในช่วงวันหยุดหรือเวลาว่างอยู่แล้วครับ
เมื่อเดินขึ้นมาได้ประมาณ 30 นาทีก็จะได้เจอกับจุดชมวิวด้านบน (Observatory Platform) หรือที่คนเกาหลีเรียกว่าชอนมังแด (전망대) ข้างบนนี้จะมีนักท่องเที่ยวที่นั่ง Cable Car จากด้านล่างขึ้นมาชมวิวค่อนข้างเยอะ ต้องต่อคิวถ่ายรูปกันเลย แต่วิวก็สวยคุ้มค่ามากครับ
จากจุด Observatory Platform ผมเดิน Hiking ต่อขึ้นไปอีกราวๆ 1.8 km เพื่อขึ้นไปถึงจุดชมวิวอีกจุดที่ชื่อว่า “Yeonjabeong Peak (연자봉)” เรียกว่าเป็นเส้นทาง Hiking ที่มีความชันมากใช้ได้และใช้พลังในการเดิน Hiking ค่อนข้างมากเลยล่ะครับ แนะนำถ้าใครจะมา Hiking ที่นี่ควรจะต้องฟิตร่างกายออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยให้เราขึ้นมาได้อย่างไม่เหนื่อยจนเกินไปครับ ผมใช้เวลาอีกราวๆ 40–50 นาทีมาถึงจุด Yeonjabong Peak แห่งนี้ ระหว่างทางเริ่มไม่ค่อยมี Hiker ท้องถิ่นแล้วครับ เหลือน้อย 3–4 คนได้ ได้คิดทบทวนตัวเองหลายๆ อย่างระหว่างทาง ผมว่าการ Hiking เป็นกิจกรรมที่ทำให้เราได้อยู่กับตัวเอง และได้ชมวิวธรรมชาติสองข้างทางไปด้วย เป็นอะไรที่ผมมีความสุขมากๆ ครับ
การ Hiking ก็เหมือนกับเราได้ Challenge กับร่างกายของเราเอง เมื่อเราขึ้นมาถึงเป้าหมายของเราแล้วเหมือนฮอร์โมนแห่งความสุข เซโรโทนินได้ทำงานอย่างเต็มที่มากๆ จริงครับ รู้สึกกับตัวเองได้เลย
ทางเดิน Hiking ที่นี่โดยรวมแล้วผมว่าโอเคเลย มีทั้งทางที่เค้าทำไว้ให้เดินได้สะดวก มีราวให้จับตลอด แต่ก็มีบางจุดที่ต้องใช้ความระมัดระวังเพราะมีหินก้อนใหญ่ค่อนข้างเยอะ แนะนำให้เตรียมรองเท้า Hiking Shoes ที่ใช้เดิน Hiking โดยเฉพาะจะดีที่สุดครับ และยิ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงแบบนี้เราก็จะได้พบกับใบไม้เปลี่ยนสีตลอดสองข้างทาง สวยงามมากๆ ครับ แนะนำว่าถ้าใครยังไม่เคยลองมา Hiking ที่เกาหลีต้องลองดูซักครั้งในชีวิตนะครับ
หลังจากที่เดิน Hike ลงมาจาก Yeonjabong Peak ผมนั่งพักตรงบริเวณทางขึ้น-ลง Cable Car ที่นี่มีร้านค้า ร้านอาหารให้บริการนักท่องเที่ยวด้วยนะครับ แต่ราคาอาหารก็จะค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับราคาทั่วไป ผมหิวมากเลยสั่งคัมจาจอน (Potato Pancake) ไปครับ แต่รสชาติก็อร่อยดีนะครับ (หรือเพราะเราหิวกันนะ 55+)
หลังจากออกกำลังกายมาอย่างหนักหน่วง ก็ถึงเวลาพักขากันบ้างแล้วครับ 55+ ขากลับผมเลือกลงจากจุดชมวิวด้วย Cable Car เราสามารถซื้อตั๋วได้จากจุดขึ้นเคเบิลคาร์ด้านบนได้เลย ผู้ใหญ่คนละ 6,000 วอน (ถ้าใครซื้อไปกลับก็ 10,000 วอนนะครับ)
Cable Car ที่นี่จะคนแน่นๆ หน่อยนะครับ ถ้ามีโอกาสก็แนะนำให้ต่อคิวให้ได้ขึ้นคนแรกๆ เพื่อที่จะได้เลือกจุดยืนชมวิวบน Cable Car ได้ครับ ผมขึ้นคนหลังๆ อาจจะทำให้ต้องพยายามหามุมถ่ายรูปลำบากนิดนึง แต่วิวระหว่างทางคือสวยมากๆ ครับ ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีของภูเขา Naejangsan ตลอดสองข้างทาง
เมื่อลงมาด้านล่าง เราก็จะได้เห็นกับบรรดาต้นเมเปิ้ลที่ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดงสวยงามมากๆ ถ่ายรูปกันรัวๆ ครับ สวยแค่ไหนต้องลองมาดูด้วยตาตัวเองนะครับ
ผมเดินย้อนกลับลงมาเพื่อมาเที่ยวชมจุด Highlight Spot สุดท้ายของทริปนี้คือ “Uhwajeong Pavillion” (우화정 อ่านว่า อูฮวาจอง) เป็นศาลาทรงฮันอกสไตล์เกาหลี ถูกสร้างมาตั้งแต่ปี 1965 (เกือบ60 ปีแล้ว) ตั้งอยู่กลางสระน้ำภายในอุทยานแห่งชาติเนจังซาน ล้อมรอบไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีของต้นเมเปิ้ลที่ใครที่มาที่นี่ก็ห้ามพลาดที่จะต้องถ่ายรูปกับ Uhwajeong Pavillion นี้เก็บไว้เป็นที่ระลึกกันนะครับ
บริเวณนี้จะมีนักท่องเที่ยว ช่างภาพต่อคิวถ่ายรูปจุดไฮไลท์สปอตนี้ค่อนข้างมาก แนะนำให้เผื่อเวลาในแพลนให้ดีๆ นะครับ
หลังจากชมวิว Uhwajeong Pavillion เสร็จแล้ว ผมเลือกที่จะเดินกลับจากจุดนี้ออกไปยังทางเข้าของอุทยานฯ (ที่เรานั่ง Shuttle Bus ตอนขามา) เพราะว่าระหว่างทางเดินตรงนี้เราจะได้พบกับวิวใบไม้เปลี่ยนสีของต้นไม้ต่างๆ ทั้งต้น Ginkgo, Maple เปลี่ยนเป็นสีเหลืองแดงส้มตลอดสองข้างทาง รับรองว่าคุ้มค่าเหนื่อยกับการเดินอย่างแน่นอน การเดินออกไปยังทางเข้าอุทยานนั้นจะมีระยะทางราวๆ 2km ใช้เวลาเดินก็แล้วแต่คนนะครับว่าจะเดินเร็วช้า แต่อากาศเย็นกำลังสบาย 10 กว่าองศา ทางเดินเรียบไม่เหนื่อยเลยครับ ชมวิวเพลินๆ ชิลๆ ได้เลย
เมื่อเดินออกจากอุทยานแห่งชาติเนจังซานแล้ว ถ้าใครยังมีเวลาเหลือ แนะนำให้ลองชิมอาหารท้องถิ่นที่นี่ ผมผ่านไปเจอร้านขายโฮต๊อก เป็นขนมท้องถิ่นของเกาหลี ทำจากแป้งใส่ถั่วและน้ำตาล หวานๆ หอมๆ ดีครับ
หลังจากนั้นผมก็เดินกลับไปรอรถเมล์ที่ป้าย Naejangsan ป้ายเดิมที่มาลงเพื่อนั่งกลับไปยังสถานี Jeongeup เพื่อขึ้นรถไฟความเร็วสูง KTX กลับไปยังเมือง Gwangju อีกที ผมใช้เวลาเที่ยวที่ Naejangsan National Park รวมๆ ก็ 5–6 ชม. ได้เลยนะครับ คุ้มค่าและประทับใจในธรรมชาติของที่นี่มากครับ
สรุป
Naejangsan National Park หรืออุทยานแห่งชาติเนจังซานถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรค่าแก่การมาเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงอย่างมาก เพราะที่นี่มีต้นไม้หลากหลายพันธุ์ที่สวยงามมากๆ และนอกจากในฤดูใบไม้ร่วงแล้วในช่วงฤดูใบไม้ผลิในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ที่นี่ก็ยังเป็นสถานีที่เที่ยวชมดอกพ๊อตกตที่สวยงามมากอีกแห่งของประเทศเกาหลีใต้ ถ้าใครมาเที่ยวที่เกาหลีแล้วอยากจะลองไปเที่ยวชมธรรมชาติสวยๆ ในต่างจังหวัดผมก็ขอแนะนำที่นี่เลยครับ สวยคุ้มค่า ได้ความประทับใจกลับไปอย่างแน่นอน Happy Travel!