รีวิวสายการบิน Thai AirAsia X บินไป Osaka หน้าร้อนปี 2024 ด้วย Airbus A330–300
สวัสดีครับ บทความนี้จะขอมารีวิวสายการบิน Thai AirAsia X (XJ) บินไปประเทศญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อนโดยออกจากสนามบินสุวรรณภูมิและลงที่สนามบิน Kansai International Airport ครับ โดยเป็นการเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิในช่วงท้ายก่อนที่สายการบิน Thai AirAsia X จะย้ายฐานการบินกลับไปทำการบินที่สนามบินดอนเมืองอีกครั้งในวันที่ 1 ตุลาคม 2024 นี้ครับ และแน่นอนว่าเครื่องบินที่ใช้ทำการบินในครั้งนี้ก็ยังคงเป็น Airbus A330–300 ซึ่งเป็น Type หลักและ Type เดียวของสายการบิน Thai AirAsia X ครับ
รู้จักสายการบิน Thai AirAsia X
สายการบิน “Thai AirAsia X” (IATA Code: XJ) เป็นหนึ่งในสายการบินต้นทุนต่ำในเครือ AirAsia ร่วมทุนกันระหว่างสายการบิน AirAsia X มาเลเซียและสายการบิน Thai AirAsia ให้บริการทำการบินในเส้นทางระหว่างประเทศโดยเฉพาะ โดยมีเส้นทางการให้บริการในภูมิภาคในหลายประเทศเช่น เกาหลีใต้(อินชอน) ญี่ปุ่น (โตเกียว-นาริตะ, โอซาก้า-คันไซ, ซัปโปโร และนาโงย่า) จีน (เซี่ยงไฮ้) และออสเตรเลีย (ซิดนีย์ เริ่มกลับมาให้บริการ 1 ต.ค. 2024) เริ่มทำการบินให้บริการมาตั้งแต่ปี 2014 (ครบ 10 ปีในปี 2024 นี้แล้ว) ปัจจุบันมีเครื่องบินที่ให้บริการทั้งหมด 8 ลำ โดยเป็นเครื่องบิน Airbus A330–300 Type เดียวกันทั้ง 8 ลำ และยังมีแผนที่จะรับมอบเครื่องบินเพิ่มในอนาคตอีกหลายลำครับ
การจองตั๋วเครื่องบิน
[Disclosure] การเดินทางครั้งนี้ผมออกค่าใช้จ่ายเองในการเดินทางเองทั้งหมด ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากสายการบินหรือบริษัท Travel Agency ใดๆ ทั้งสิ้น
การจองตั๋วเครื่องบินของสายการบิน Thai AirAsia X สามารถจองได้หลากหลายเส้นทางมากๆ ทั้งจองตรงกับสายการบินผ่านเว็บไซต์ airasia.com หรือแอพพลิเคชัน AirAsia Move หรือจะจองผ่าน Online Travel Agency ได้อีกหลากหลายช่องทางตามสะดวกเลย โดยในการเดินทางครั้งนี้ผมเลือกจองกับ Travel Agency หน้าใหม่อย่าง Lazada Travel ซึ่งได้ราคาค่อนข้างดีและมีโปรโมชันส่วนลดออกมาอยู่เรื่อยๆ เลย (ไม่ได้ค่า Sponsor แต่อย่างใด 55+)
การเดินทาง BKK-KIX
Flight: XJ610
Route: Bangkok (BKK)-Osaka (KIX)
Departure Time: 11:30 am
Arrival Time: 7:20 pm
Duration: 5 Hours 50 Minutes
Aircraft: Airbus A330–300 (HS-XTI)
Class: Economy
การเดินทางวันนี้ ผมนั่งรถไฟ Airport Link จากสถานีหัวหมากมาลงที่สถานีสุวรรณภูมิ และขึ้นไปเช็คอินที่ชั้น 4 บริเวณเคาเตอร์เช็คอินแถว F หรือจะทำ Self-Check-in ด้วยตู้ Kiosk ได้เช่นเดียวกัน
หลังจากที่เช็คอินและโหลดกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว เราก็จะได้ Boarding Pass และ Baggage Tag มาให้ครับ
สายการบิน Thai AirAsia X จะทำการบินจากเกทที่ Satellite-1 Terminal (Sat1)ใหม่ของสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเราจะต้องนั่งรถไฟเพื่อเปลี่ยน Terminal ไปเล็กน้อย ซึ่งในปัจจุบันก็มีสายการบินที่เริ่มไปทำการบินจาก Sat1 Terminal นี้อยู่หลายสายการบินแล้ว วันนี้เกทของเราอยู่ที่ S103 ครับ
บรรยากาศที่ Sat-1 Terminal นั้นดีมากครับ ผู้โดยสารไม่เยอะเท่า Main Terminal และยังดูใหม่ สะอาดมาก มีร้านอาหาร Duty Free ให้บริการอยู่พอสมควร ที่สำคัญคือ Gate ที่ Sat-1 Terminal แห่งนี้ค่อนข้างกว้างขวางกว่า Gate ที่ Main Terminal มาก มีที่นั่งรอขึ้นเครื่องเยอะกว่าเดิม สิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยกว่าเดิม เป็นการมาใช้บริการ Sat-1 Terminal ของผมก็รู้สึกประทับใจมากๆ ครับ
นั่งรอขึ้นเครื่องซักพักก็เห็นว่ามีเครื่องของ Thai AirAsia X เที่ยวบิน XJ761 ที่บินจากเซี่ยงไฮ้มาลงที่กรุงเทพฯ มาถึงแล้วและเตรียมทำการบินในไฟลท์ XJ610 ของเราต่อไป
หลังจากที่ XJ761 มาถึง ส่งผู้โดยสารลงจากเครื่องและทำการเตรียมไฟลท์ต่อไปอยู่พักหนึ่ง ทางสายการบินก็เริ่มเรียกขึ้นเครื่อง (Boarding) กันแล้วครับ โดยสายการบินจะทำการ Board ผู้โดยสารขึ้นเครื่องตามกลุ่มที่อยู่ใน Boarding Pass ของเรา ของผมอยู่ใน Group 2 ก็รอไม่นานครับ
ที่นั่งของ A330–300 ของ Thai AirAsia X จัดเรียงแบบ 3–3–3 ครับ วันนี้ผมได้ที่นั่งริมหน้าต่างเลย ผู้โดยสารวันนี้ก็ไม่เต็มลำครับ ยังพอมีที่นั่งว่างอยู่ อาจจะเพราะว่าเป็นช่วง Low Season ของการท่องเที่ยวในฤดูร้อน ช่วงนี้ตั๋วเครื่องบินราคาดีมากๆ ครับ
หลังจากขึ้นเครื่องกันครบแล้ว กัปตันก็เริ่มนำเครื่อง Taxi ออกจากหลุมจอดและ Take Off ออกเดินทางกันตามเวลาดีมากครับ แทบไม่ดีเลย์เลย
หลังจากไฟแจ้งรัดเข็มขัดบนเครื่องบินดับลง ลูกเรือบนเครื่องก็เริ่มที่จะเตรียมเสิร์ฟอาหารในอีก 1 ชม.ครับ ซึ่งที่กระเป๋าหน้าที่นั่งของเราก็จะมีเมนูให้เราสามารถสั่งซื้ออาหารมาทานบนเครื่องได้ ซึ่งส่วนตัวผมชอบเมนูอาหารของทางแอร์เอเชียมากๆ อร่อยเหมือนเดิมเลย ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงเป็นซีซันของเมนูอาหารใหม่พอดี ก็จะมีเมนูใหม่ๆ มาให้เราเลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ก๋วยเตี๋ยวเรือบิน”, “ข้าวผัดกะเพราไก่” และ “ข้าวต้มมัดใจ” เป็นต้น แต่ในเที่ยวบินนี้ผมได้ทำการ Pre-booked อาหารล่วงหน้าออนไลน์มาแล้ว เป็นข้าวผัดกะเพราะไก่คลุกครับ
เมนูกะเพราไก่คลุกของผมอร่อยมากครับ แต่ได้ปริมาณน้อยไปหน่อย ผมเลยสั่งน้ำลำไยซึ่งเป็นเมนู Signature ของแอร์เอเชียในช่วงซีซันนี้มาทานด้วย ลูกเรือบริการเสิร์ฟอย่างดี น้ำลำไยหวานกำลังดี ไม่หวานจนเกินไป ฟินมากครับ
แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังไม่อิ่มอยู่ดีเลยสั่ง Snack เป็น Pringles มากินพร้อมดูหนังไปเพลินๆ ด้วยครับ ทำให้การเดินทางของเราไม่เหนื่อยเลย นอกจากนี้ในเที่ยวบินนี้ทางลูกเรือยังมีการแจกนมอัลมอนด์พิเศษฟรีคนละ 1 กล่องจากทางกูลิโกะด้วย อร่อยดีครับ
หลังจากทานอาหารกันอิ่มแล้ว กัปตันก็เริ่มหรี่ไฟในห้องโดยสารให้ได้พักผ่อนกัน อากาศบนฟ้าวันนี้แจ่มใสมากๆ ครับ วิวสวยสุดๆ
หลังจากเดินทางไปได้ราวๆ 5 ชั่วโมง เราก็เริ่มมองเห็นสนามบิน Kansai ซึ่งตั้งอยู่เป็นเกาะยื่นเข้าไปในทะเลแล้ว และกัปตันก็เริ่มลดระดับเพดานบินและนำเครื่อง Landing ลงที่สนามบิน Kansai International Airport อย่างปลอดภัย เป็นการเดินทางไปญี่ปุ่นที่ไม่เหนื่อยเลย เพราะเป็นการบินในช่วงกลางวันด้วยครับ
ที่ภูมิภาคคันไซในช่วงฤดูร้อนนี้ อากาศค่อนข้างร้อนมากเลยทีเดียว อุณภูมิภาคพื้นกัปตันแจ้งกว่า 30º c เลย แต่ความรู้สึกคือร้อนกว่าที่บ้านเราอีกครับ แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการมาเที่ยว เพราะราคาตั๋วเครื่องบินต่างๆ ค่อนข้างถูกมาก และตามสถานที่ท่องเที่ยวก็จะไม่มีนักท่องเที่ยวเยอะเท่าช่วงฤดูกาลอื่นๆ ครับ
สรุป
สายการบิน Thai AirAsia X เป็นหนึ่งในสายการบินโลวคอสในดวงใจของเราเสมอ มีเส้นทางการบินให้บริการเยอะมากมาย โดยเฉพาะในเส้นทางไปประเทศญี่ปุ่นก็มีไฟลท์ให้เราเลือกเดินทางทั้งบินกลางวันและกลางคืนมากกว่า 1 เที่ยวบินต่อวันด้วย ก็สามารถเข้าไปเช็คเที่ยวบินต่างๆ ผ่านทางเว็บ airasia.com ได้ และที่สำคัญอาหารบนเครื่องบินของไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ก็ยังมีให้เลือกหลากหลาย เปลี่ยนสลับเมนูใหม่ตลอดเวลา ประทับใจตลอดครับ ส่วนเรื่องการเดินทางก็นั่งสบาย ออกตรงตามตารางดีมากๆ สมกับเป็นสายการบินที่ได้รับรางวัลสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในโลกจาก SkyTrax ด้วย ถ้ามีโอกาสก็อย่าลืมมาใช้บริการกันนะครับ Happy Travel!