รีวิวลุยเดี่ยวเที่ยวคิวชูญี่ปุ่น 10 วัน 9 คืนโดยใช้ JR Kyushu Pass และ SunQ Pass EP.6

Traitanit Huangsri
5 min readMay 6, 2024

มาถึงตอนที่ 6 ของทริปลุยเดี่ยวเที่ยวรอบคิวชู 10 วัน 9 คืนกันแล้ว หลังจากที่ในตอนที่แล้วเราไปเที่ยวธรรมชาติอันสวยงามกันที่เมือง Takachiho กันมาแล้ว ใครที่ยังไม่ได้อ่านสามารถตามอ่านได้ในลิ้งค์ด้านล่างนี้ครับ ในตอนนี้ผมกลับมาที่เมือง Kumamoto เพื่อเที่ยวในเมืองคุมาโมโตะและเดินทางกลับไปยังเมือง Fukuoka เพื่อปิดท้ายการเที่ยวในทริปนี้ที่ฟุกุโอกะแบบเก็บตกกันครับ

Day 8: เที่ยวปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle)

เช้าวันที่ 8 ของทริปผมตื่นเช้ามาออกกำลังกายก่อนเช่นเคย วันนี้ออกไปวิ่งรอบๆ แม่น้ำ Shirakawa River ในตัวเมือง Kumamoto บรรยากาศเช้านี้ดีมากครับ มีคนท้องถิ่นที่นี่มาออกกำลังกายกันเยอะเลย

บรรยากาศยามเช้าริมแม่น้ำ Shirakawa River, Kumamoto

หลังจากออกกำลังกายเสร็จแล้วก็กลับมาอาบน้ำทานข้าวที่โรงแรม และ Check-out ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อนครับ เช้านี้ผมแพลนจะไปเที่ยวปราสาทคุมาโมโตะซึ่งอยู่ใกล้ๆ โรงแรมที่พักสามารถเดินไปได้เลยครับ

บรรยากาศระหว่างทางเดินไปปราสาทคุมาโมโตะ

ในช่วงวันที่ผมไปปราสาทคุมาโมโตะเป็นวันธรรมดา เราจะต้องเข้าทางทางเข้าฝั่งเหนือ (North Entrance) ของปราสาทเท่านั้น ไม่สามารถเข้าจากฝั่งใต้ (South Entrance) ได้นะครับ เช้านี้อากาศแจ่มใส แดดดีเลยทีเดียวครับ

South Entrance ของปราสาทคุมาโมโตะเข้าได้เฉพาะวันหยุดเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น

ผมเดินมาเข้าปราสาทคุมาโมโตะฝั่ง North Entrance โดยเราจะต้องซื้อตั๋วเข้าชมปราสาทมีค่าเข้า 800 เยน แต่เนื่องจากเรามี SunQ Pass ซึ่งนอกจากจะใช้เดินทางรอบคิวชูด้วยรถบัสแล้ว ตัวพาสยังมีส่วนลดพิเศษสำหรับใช้เข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในภูมิภาคคิวชูอีกด้วย และที่ปราสาทคุมาโมโตะแห่งนี้เราสามารถแสดง SunQ Pass เป็นส่วนลดเข้าชมได้ 20% ด้วยครับ ทำให้ผมซื้อตั๋วเข้าปราสาทคุมาโมโตะในราคา 640 เยนเท่านั้น

ตั๋วเข้าชมปราสาทคุมาโมโตะ (ได้ส่วนลดจาก SunQ Pass)

รู้จักปราสาทคุมาโมโตะกันหน่อย

ปราสาทคุมาโมโตะหรือ Kumamoto Castle เป็นหนึ่งในปราสาทที่สำคัญและมีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองคุมาโมโตะ จังหวัดคุมะโมะโตะ ปราสาทนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีความสำคัญทางทหารและทางการเมือง ปราสาทคุมาโมโตะถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1601 เป็นปราสาทที่มีความใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น

ปราสาทคุมาโมโตะ

ปราสาทคุมาโมโตะมีลักษณะออกแบบที่เน้นความทนทานและความแข็งแกร่ง โดยมีระบบป้องกันที่มั่นคงและซับซ้อน เช่น รั้วล้อมรอบที่สูงและเสาหินที่แข็งแรงทนทาน ปราสาทนี้เคยถูกทดสอบความทนทานในช่วงสงครามโบชินโซได้เป็นอย่างดี

ปราสาทคุมาโมโตะมีลักษณะออกแบบที่สวยงามและมีความเป็นเอกลักษณ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญในญี่ปุ่นและได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในปี ค.ศ. 1993

และจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ของภูมิภาคคิวชูในปี 2016 ทำให้ปราสาทคุมาโมโตะได้รับความเสียหายอย่างมาก โครงสร้างบางส่วนของปราสาทพังทลาย ทำให้จำเป็นต้องมีการปิดปรับปรุงปราสาทไปหลายปี จนกระทั่งการปรับปรุงบางส่วนสำเร็จและเปิดให้เข้าชมได้บางส่วนในปี 2021 ที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีบางส่วนของปราสาทที่ยังคงต้องปรับปรุงบูรณะเพิ่มเติม คาดว่าจะเปิดให้เข้าชมแบบเต็มรูปแบบได้ทั้งหมดในปี 2038

แบบจำลองโครงสร้างของปราสาทในสมัยก่อน

มาถึงที่ปราสาทคุมาโมโตะแล้วก็อย่าลืมถ่ายรูปบริเวณด้านหน้าปราสาทกันนะครับ Renovate กลับมาค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว สวยงามมากๆ

ผมใช้เวลาเดินเที่ยวภายในและรอบๆ ปราสาทคุมาโมโตะราว 2 ชม.ก็ได้เวลาเดินทางกลับไปยังฟุกุโอกะกันแล้วครับ ถ้าใครมีโอกาสมาเยือนเมืองคุมาโมโตะก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวกันนะครับ

Kumamoto Tram Line ยังไม่มีโอกาสได้ลองนั่งเลย

เดินทางกลับ Fukuoka จาก Kumamoto ด้วยรถบัส

วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมจะใช้ SunQ Pass พาสรถบัสเหมาๆ เดินทางจากคุมาโมโตะไปยังเมืองฟุกุโอกะแล้วครับ โดยจากเมืองคุมาโมโตะ (Sakuramachi Bus Terminal) ไปยังฟุกุโอกะ (Hakata Bus Terminal) มีรถบัสทางด่วนให้บริการแทบจะทุก 20–30 นาที ไม่ต้องจองที่นั่ง แค่มานั่งรอแล้วขึ้นบัสได้เลย เป็นบัสแบบ Non-Reserved Seat เข้าใจว่ามันมีรอบถี่จึงไม่จำเป็นต้องจองครับ

Gate 7 bound for Fukuoka (Hakata, Tenjin, Fukuoka Airport)

ผมกลับไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่โรงแรมและกลับมาที่ Sakuramachi Bus Terminal อีกครั้ง โดยการเดินทางกลับไปยัง Hakata Bus Terminal ให้เรามารอบัสได้ที่ Gate เบอร์ 7 มีป้ายภาษาอังกฤษบอกชัดเจนครับ โดยรถบัสจะวิ่งไปจอดทั้งที่ Hakata Bus Terminal, Tenjin Bus Terminal และสนามบิน Fukuoka Airport เลย ดังนั้นถ้าใครอยากจะนั่งตรงจากเมืองคุมาโมโตะไปยังสนามบินฟุกุโอกะก็ทำได้เลย ไม่ต้องแวะพักที่เมืองฟุกุโอกะก่อนครับ

ตารางบัสไปฟุกุโอกะเรียกได้ว่าถี่มากๆ

ผมเลือกที่จะขึ้นบัสรอบ 11:40 (แถวแรกในตาราง) ซึ่งเป็นบัสที่จะขึ้นทางด่วนและไปลงที่ Hakata Bus Terminal ใช้เวลาเดินทางราวๆ 2 ชม. เมื่อถึงเวลารถบัสก็มาจอดรอรับผู้โดยสารตรงเวลาดีมากครับ

Highway Bus to Fukuoka โดย Nishitetsu Bus

ข้อดีอย่างนึงของการเดินทางด้วยบัสก็คือเราไม่ต้องกังวลกับกระเป๋าเดินทางเลย จะใบใหญ่แค่ไหนก็มีที่ให้วางกระเป๋าใต้ท้องรถได้เหลือๆ สบายๆ ครับ เดินตัวปลิวขึ้นบัสไปนั่งชิลๆ ได้เลย

ซื้อ Sanwich ผลไม้รวมจาก FamilyMart มากินบนรถ อร่อยมากๆ

เนื่องจากเป็นบัสที่ไม่ต้องจองที่นั่ง ดังนั้นก็จะเป็นระบบ First Come First Serve คือใครขึ้นบัสก่อนก็ได้เลือกที่นั่งก่อน ที่นั่งจัดเรียงแบบ 2–2 และมีช่องเสียบปลั๊กชาร์ตมือถือและ Free WiFi บนรถบัสตลอดการเดินทางเช่นเคย วันนี้ผมเลือกนั่งแถวหน้าสุดเพื่อจะชมวิวทางด่วนแบบชัดๆ ซะหน่อยครับ ถนน Highway ที่นี่เค้าดู maintain ดีมากๆ เลยครับ รถเยอะแต่ไม่ติดเลย

บรรยากาศบน Highway to Fukuoka

รถบัสวิ่งขึ้นทางด่วนและใช้เวลาราว 2 ชม.ก็มาถึงที่ Hakata Bus Terminal เป็นที่เรียบร้อย ตอนลงจากบัสก็แค่โชว์ SunQ Pass ให้คนขับดูก็เรียบร้อยครับ

มื้อกลางวันอุด้งกุ้งเทมปุระกับข้าวปรุงรสที่ร้าน Makino Udon

มื้อกลางวันนี้ผมเลือกกินร้านอาหารง่ายๆ ใน Hakata Bus Terminal ชื่อร้าน Makino Udon เป็นร้านอุด้งเซตง่ายๆ ราคาไม่แพง แต่รสชาติอร่อยมากๆ ครับ แนะนำเลยสำหรับใครที่เดินทางแล้วอยากหาอะไรกินไวๆ ก็ร้านนี้เลยครับ

หลังจากการข้าวเสร็จแล้วผมก็เอากระเป๋าไปฝากไว้ที่พักและออกไปเที่ยวในเมือง Fukuoka กันต่อโดยยังใช้ SunQ Pass ในการเดินทางด้วยรถบัสเช่นเดิมครับ

เดินทางไปเที่ยว Fukuoka Tower และ Momochi Seaside Park

ผมเดินทางจากที่พักแถว Hakata Station ไปยัง Fukuoka Tower ด้วยรถบัสท้องถิ่น (Local Bus) โดยใช้ SunQ Pass ต่อได้เลย วิธีการก็คือตอนขึ้นให้สังเกต Logo SunQ Pass ที่ตัวรถบัสก่อนว่ารองรับ SunQ Pass ไหม (ส่วนใหญ่คือใช้ได้หมด) หลังจากนั้นเมื่อขึ้นรถบัส (ที่ประตูกลาง) จะมีเครื่องออกตั๋วกระดาษที่เป็นตัวเลข (Number Ticket) ให้เราหยิบตั๋วนั้นเก็บไว้กับตัว และเมื่อเราต้องการจะลงก็ให้นำตั๋วกระดาษยื่นให้คนขับ พร้อมทั้งโชว์ SunQ Pass เท่านี้ก็เรียบร้อย สามารถนั่งไปไหนก็ได้ไม่จำกัดรอบแบบเหมาๆ ครับ (ค่าขึ้นบัส 1 รอบก็ประมาณ 260 เยน แต่เราเหมาจ่ายไปแล้ว)

วิธีขึ้น Local Bus ด้วย SunQ Pass

รถบัสใช้เวลาราวครึ่งชม. ขึ้นทางด่วนมาลงที่ป้าย Fukuoka Tower Minamiguchi แล้วเดินต่ออีก 50 เมตรก็ถึง Fukuoka Tower แล้วครับ

Fukuoka Tower

Fukuoka Tower เป็นตึกหอคอยสูงที่ตั้งอยู่ที่เมืองฟุกุโอกะ มีความสูงประมาณ 234 เมตร และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของฟุกุโอกะ ที่ชั้นบนสุดของหอคอยนี้สามารถมองเห็นวิวทะเลและเมืองฟุกุโอกะอย่างงดงาม โดยเฉพาะในตอนกลางคืนที่มีการตกแต่งไฟสีสันสวยงาม นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทะเลและเมืองได้อย่างชัดเจน นับเป็นจุดชมวิวที่น่าสนใจและโรแมนติกที่สุดของฟุกุโอกะ ที่นี่มักจะเป็นสถานที่โรแมนติกสำหรับการเดทหรือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของครอบครัวและเพื่อนฝูงในช่วงเย็นๆ และยังมีร้านอาหารและร้านค้าต่างๆ ให้บริการด้วยครับ

และสำหรับใครที่ใช้ SunQ Pass อย่างผมจะมีส่วนลดค่าเข้าชม Fukuoka Tower ด้วย 10% เหลือ 720 เยนจากราคาเต็ม 800 เยนครับ

วิว Momochi Seaside Park จาก Fukuoka Tower

เมื่อเราขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น Observation ซึ่งเป็นจุดชมวิวเมืองฟุกุโอกะ แบ่งเป็น 3 ชั้นด้วยกัน โดยลิฟจะจอดที่ชั้นบนสุดก่อน ชั้นนี้จะเรียกว่า “SKY View 123” เราสามารถมองเห็น Momochi Seaside Park ได้อย่างชัดเจน รวมถึงวิวมุมอื่นๆ ของเมืองฟุกุโอกะได้เต็มตา สวยงามมากครับ

วิวบน SKY View 123 บน Fukuoka Tower

เดินย้อนลงมาชั้นนึงก็จะมี Cafe ร้านอาหารคอยให้บริการนักท่องเที่ยวที่อยากจะมานั่งดื่มกาแฟชมวิวเมืองฟุกุโอกะสวยๆ ได้เช่นกันครับ นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งสถานที่สำหรับคู่รักที่มาเดทกันก็สามารถมาถ่ายรูปกับวิวสวยๆ ตรงนี้ได้

วิวรูปหัวใจที่ Fukuoka Tower

หลังจากชมวิวบนหอคอย Fukuoka Tower เสร็จแล้วผมก็ลงลิฟต์มาชั้นล่าง มาเจอกับ Mascot ของ Fukuoka Tower ให้เรามาถ่ายรูปด้วยได้ครับ

Mascot ของ Fukuoka Tower
Marizon ที่ Momochi Seaside Park

ผมออกจาก Fukuoka Tower เพื่อเดินต่อไปเที่ยวยัง Momochi Seaside Park ซึ่งที่นี่เป็นสวนสาธารณะริมชายหาดที่ทอดยาวไปทางตอนเหนือของ Fukuoka Tower ตรงกลางของพื้นที่บริเวณนี้มีอาคารที่ถูกสร้างยื่นเข้าสู่ทะเลซึ่งจะเรียกว่า มาริซอน (Marizon) เป็นอาคารที่ออกแบบตกแต่งสไตล์ยุโรป ด้านในก็จะมีร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้งรวมถึงสถานที่จัดงานแต่งงานด้วย คู่รักหลายคู่ในฟุกุโอกะก็นิยมมาถ่ายรูป Pre-Wedding รวมถึงจัดงานแต่งงานกันที่นี่ครับ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนไม่ขาดสาย เพราะวิวทะเลที่นี่สวยจริงๆ

แวะถ่ายรูปที่ Momochi Seaside Park เล็กน้อย

บรรยากาศที่ Momochi Seaside Park นั้นดีทีเดียวครับ เพราะมีร้านอาหาร มีพื้นที่ให้เราสามารถมานั่งชิลล์ชมวิวรับลมทะเลเย็นๆ ได้สบายๆ ผมใช้เวลาที่นี่ราวๆ 1 ชม.ครึ่งนั่งโง่ๆ อยู่ริมทะเลเลยครับ 55+

Momochi Seaside Park
Soft Serve ที่ Momochi Seaside Park
วิว Fukuoka Tower จาก Momochi Seaside Park

หลังจากเที่ยว Momochi Seaside Park เสร็จแล้วก็เริ่มเย็นแล้ว ผมเลยแพลนว่าจะไปดูน้ำพุสวยๆ ช่วงเย็นที่ห้าง Canal City Hakata ด้วยครับ แน่นอนว่าก็ใช้ SunQ Pass เดินทางด้วยบัสเช่นเคย

วิวบนทางด่วนกลับไปยัง Canal City Hakata
Bus แต่งเป็นสีสันน่ารักๆ ในเมือง

ผมเดินทางมาถึงที่ห้าง Canal City Hakata ทันเวลาการแสดงน้ำพุในช่วงเวลา 6 โมงเย็นพอดี เคยดูครั้งนึงเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ปีนี้ได้กลับมาดูอีกครั้งก็ยังสวยงามเหมือนเดิมเลย

โชว์น้ำพุที่ห้าง Canal City Hakata

ห้าง Canal City Hakata เป็นห้างใหญ่ย่าน Hakata ที่มีสินค้าให้เราสามารถมาเดินช้อปปิ้งได้มากมาย มีร้านค้าแบรนด์ดังๆ เยอะ เช่น Alpen Fukuoka ซึ่งเป็นร้านที่เป็นศูนย์รวมอุปกรณ์กีฬาต่างๆ สาขาใหญ่ของเมืองฟุกุโอกะก็อยู่ที่นี่ด้วยครับ หรือถ้าใครที่เป็นสาวก Gundam ที่นี่ก็มีช็อปของ Gundam Base ให้เหล่าแฟนๆ กันดั้มมาช้อปปิ้งเลือกซื้อกันได้ครับ

Gundam Base Canal City Hakata
Alpen Fukuoka ศูนย์รวมอุปกรณ์กีฬาชื่อดัง สาขาใหญ่ของ Fukuoka

ผมใช้เวลาที่ Canal City Hakata จนถึงช่วงค่ำเลย มื้อเย็นวันนี้ผมเดินผ่านร้าน Steak ในตำนานอย่าง “Ikinari Steak” วันนี้ลองสั่งเป็นเซต CAB Chuck Eye Steak & Hamburger Steak มาลอง ก็อร่อยเหมือนเดิมเลย

CAB Chuck Eye Steak & Hamburger Steak

สรุป

เป็นอีกหนึ่งวันที่เที่ยวได้หลายที่แบบเต็มอิ่ม เดินกันจนเมื่อยเลยครับ และวันนี้ก็ยังเป็นวันสุดท้ายของการเดินทางด้วย SunQ Pass แล้วผมใช้เดินทางขึ้น Highway Bus จาก Kumamoto มายัง Fukuoka และใช้เดินทางท่องเที่ยวด้วย Local Bus ในฟุกุโอกะได้ด้วย เรียกได้ว่าใช้พาสได้อย่างคุ้มค่าเลย และวันนี้ก็ได้ไปเที่ยวหลายที่ทั้ง Kumamoto Castle, Fukuoka Tower, Momochi Seaside Park และปิดท้ายด้วยมาเดินช้อปปิ้งที่ห้าง Canal City Hakata ในตอนหน้าซึ่งจะเป็นตอนสุดท้ายของทริปนี้ของผมแล้ว จะพาทุกคนตระเวนย่านช้อปปิ้งในฟุกุโอกะกันต่อและจะเดินทางด้วยการใช้อีกหนึ่งบัสพาสสุดคุ้มอย่าง Fukuoka City 24-Hour Pass ในการเดินทาง ฝากติดตามกันด้วยนะครับ Happy Travel!

--

--