รีวิวการบินไทยบินจากเกาหลีกลับไทยด้วย Boeing 787–9 Dreamliner
สวัสดีครับ บทความนี้ผมจะมารีวิวสายการบินการบินไทย (Thai Airways) บินตรงจากสนามบินอินชอนที่เกาหลีใต้มาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิที่กทม.ด้วยเครื่องบิน Boeing 787–9 Dreamliner ในชั้น Economy Class กันครับ
การจองตั๋วเครื่องบิน
[Disclosure] การเดินทางครั้งนี้ผมออกค่าใช้จ่ายเองในการเดินทางเองทั้งหมด ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากสายการบินหรือบริษัท Travel Agency ใดๆ ทั้งสิ้น
ในการเดินทางครั้งนี้ ผมใช้วิธีการแลกไมล์ในการเดินทางครับ ทำให้เหลือค่าใช้จ่ายเพียงแค่ค่าภาษีสนามบินและน้ำมันรวม 113,800 วอน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 3,053 บาท ส่วนค่าตั๋วเครื่องบินก็คือบินฟรีครับ
โดยถ้าใครที่เป็นสมาชิกสะสมไมล์ของการบินไทย (Royal Orchid Plus) แล้วต้องการใช้ไมล์ที่สะสมอยู่แลกเป็นตั๋วเครื่องบิน สามารถเข้าไปทำการแลกไมล์ผ่านระบบ Air Awards ได้ที่เว็บไซต์ของ ROP https://www.thaiairways.com/en_TH/rop/index.page ได้เลยครับ ซึ่งในเส้นทางบินจากโซลอินชอน-กทม. จะใช้ไมล์ประมาณ 22,500 ไมล์ต่อ 1 เที่ยว (One-Way) สำหรับชั้น Economy Class ส่วนถ้าใน Class อื่นๆ ก็จะใช้ไมล์ที่มากขึ้นตามนี้ครับ
การบินไทยเป็นสายการบินในเครือ Star Alliance ซึ่งเราสามารถเลือกสะสมไมล์ผ่านทางสายการบินพันธมิตรในเครือได้เช่นกันครับ
Check-in & Tax Refund
ในการเดินทางครั้งนี้ ผมออกเดินทางจากที่พักย่านยางชอนในโซลมาสนามบินอินชอนใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. 20 นาที โดยรถไฟ AREX มาถึงสนามบินราวๆบ่ายสองโมง ซึ่งเคาน์เตอร์เช็คอินที่นี่จะเปิดให้บริการก่อนเวลาออกเดินทาง 3 ชม.ครับ โดยเคาน์เตอร์เช็คอินของการบินไทยจะอยู่ที่ Row F1-F35 ที่ Incheon Airport Terminal 1 อย่าไปผิด Terminal กันนะครับ
ที่สนามบินอินชอนนี้มี Kiosk Self-Check in ให้เราใช้งานได้ด้วย แต่เหมือนว่าจะรองรับเฉพาะสายการบินสัญชาติเกาหลีเท่านั้นนะครับ ส่วนการบินไทยเราสามารถทำ Online Check-in ผ่านแอปพลิเคชันหรือ Website ของการบินไทยมาล่วงหน้าได้เลยครับ ซึ่งจะทำให้เราลดระยะเวลาที่จะต้องต่อคิวเช็คอินไปได้พอสมควรเพราะที่นี่จะมีการแยกเลน Internet/Mobile Check-in ไว้ให้ด้วยครับ
ข้อดีอีกอย่างของการทำ Mobile Check-in คือเราสามารถเลือกที่นั่งล่วงหน้ามาก่อนได้ฟรีด้วยครับ มาถึงสนามบินเราก็แค่ทำการยื่นพาสปอร์ต, โหลดกระเป๋าและรอรับ Boarding Pass ได้เลย
หลังจากที่ได้รับ Boarding Pass แล้วเราจะต้องนั่งรอการสแกนกระเป๋าที่เพิ่งโหลดไปอีก 5 นาทีนะครับ สำหรับการบินไทยเราสามารถโหลดกระเป๋าได้ฟรี 30 kg กี่ใบก็ได้
และสำหรับใครที่ต้องการทำ Tax-Refund เราสามารถมาทำการเช็คการขอคืนภาษีได้ที่ตู้ Kiosk ตรงบริเวณเคาน์เตอร์เช็คอินแถว F นี้ได้เลยครับ ก่อนที่จะไปรับเงินคืนภายในเกทอีกทีนะครับ ตรงจุดนี้จะช่วยให้เราเช็คได้ว่าเราจะได้รับเงินภาษีคืนเป็นกี่วอนแค่นั้นครับ ซึ่งตู้ Kiosk นี้รองรับภาษาไทยด้วยครับ ดีมากๆ
หลังจากนั้นเราก็ผ่านด่าน Security และเข้าสู่เกทกันครับ
เมื่อเราเข้ามาแล้วก็มารับเงินภาษีคืน (Tax Refund) ได้ที่บริเวณเกท 28 ซึ่งเราสามารถเลือกรับเงินคืนได้หลายสกุลเงินทั้ง USD, CNY และ KRW ครับ
ที่สนามบินอินชอนนี้มีการใช้เทคโนโลยีเจ๋งๆ มากมาย รวมถึงหุ่นยนต์ที่คอยอำนวยความสะดวกผู้โดยสารต่างๆ เช่นทำหน้าที่เป็น Navigator พาเราไปเกทได้แบบนี้ น่ารักมาก
นั่งพักที่ห้องรับรอง Matina Lounge
สำหรับใครที่เป็นผู้ถือบัตรเครดิต JCB สามารถมาใช้บริการห้องรับรองของ Matina Lounge ได้ฟรีด้วยนะครับ ซึ่ง Matina Lounge จะอยู่บริเวณเกท 43 ฝั่ง West นะครับ เดินขึ้นบันไดเลื่อนขึ้นไปชั้น 2 ก็จะเจอ Lounge เล็กๆ อยู่ตรงนี้
ที่ Matina Lounge แห่งนี้ก็จะมีอาหารให้เราเลือกรับประทานหลายอย่างเลย ทั้งคาวหวานและยังมีเครื่องดื่มครบครัน ทั้งน้ำอัดลมและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็มีเบียร์สดให้กดจาก Tap ได้เลย เป็นของยี่ห้อ Cass ของเกาหลีครับ แล้วก็มีไวน์ให้เลือกหลายยี่ห้อเลย อาหารก็จะมีทั้งที่เป็นอาหารเกาหลีมีพวกซุปสาหร่ายมิยอกกุก ต็อกบกกี ข้าวผัด รามยอน แล้วก็อาหารตะวันตกพวกสปาเก็ตตี้ ด้วยครับ รสชาติก็อร่อยใช้ได้เลยทีเดียว แต่ข้อเสียอย่างนึงของที่นี่คือห้องรับรองค่อนข้างเล็ก และมีคนเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก ที่นั่งก็เลยอาจจะไม่ได้มีให้เลือกมากครับ
หลังจากที่อิ่มหนำกันที่ Matina Lounge แล้วก็ได้เวลาไปขึ้นเครื่องที่เกทกันแล้วครับ วันนี้เกทของเราอยู่ที่เกทหมายเลข 31 ครับ
การเดินทาง #1 ICN-BKK
Flight: TG653
Route: Seoul (ICN)-Bangkok(BKK)
Departure Time: 5:30pm
Arrival Time: 9:25 pm
Duration: 5 Hours 35 Minutes
Aircraft: Boeing 787–9 Dreamliner (พรหมบุรี)
Class: Economy (Class x)
การเดินทางกลับไทยวันนี้การบินไทยใช้เครื่องบิน Boeing 787–9 Dreamliner ทำการบินจากสนามบินอินชอนไปลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงนิดๆ ครับ
บนเครื่อง Boeing 787–9 ของการบินไทยก็จะมีระบบความบันเทิงบนเครื่องบิน (In-Flight Entertainment) มาให้ครบครัน และก็มีที่วางขามาให้ด้วย และทุกที่นั่งในชั้น Economy Class ก็จะมีหมอน, ผ้าห่มและหูฟังให้ด้วยครับ Seat Pitch ก็กว้างอยู่ครับ ผมสูง 178 cm ก็นั่งได้สบาย เข่าไม่ติดครับ
วันนี้ผู้โดยสารเต็มลำเลยล่ะครับ ส่วนใหญ่เป็นผู้โดยสารคนไทยกับเกาหลีครับ วันนี้กัปตัน Push Back, Taxi และนำเครื่อง Take Off ออกเดินทางได้ตามเวลาดีมากเลยครับ
หลังจากที่เครื่อง Take Off ไต่ระดับเพดานบินได้ซักพัก พนักงานต้อนรับก็เริ่มทำการเสิร์ฟอาหารแล้วครับ อาหารในวันนี้ผมเลือกเป็น กุ้งกับมันบด มีลาบหมูด้วย อร่อยดีนะครับ เครื่องดื่มก็มีให้เลือกหลายหลายเลยครับ ผมสั่งเบียร์สิงห์กับไวน์แดงมาลองด้วย อร่อยดีครับ
หลังจากที่ทานอาหารกันเสร็จ ก็เริ่มมีการปรับไฟบนเครื่องให้มืดลงเพื่อให้ผู้โดยสารได้พักผ่อนกัน ผมก็ดูหนังไปเรื่องนึงครับ หลังจากที่เดินทางไปได้ระยะหนึ่ง ก็เริ่มมีการเสิร์ฟอาหารว่างเป็นคุ้กกี้ของ Puff & Pie ครัวการบินไทย อร่อยดีเลยครับ อยากกินอีกเลย แต่ได้มาชิ้นเดียว 55+
หลังจากเดินทางไปได้ประมาณ 4 ชั่วโมง กัปตันก็เริ่มเปิดไฟเพื่อเริ่มเตรียมตัวลดระดับการบินลงแล้วครับ
นอกจากนี้เรายังสามารถเช็คได้ด้วยว่าหลังจากที่ Landing แล้วเราจะต้องไปรับกระเป๋าที่สายพานเบอร์อะไรได้ตั้งแต่บนเครื่องเลย รวมถึงคนที่ต้อง Transit เพื่อต่อไปไฟลท์ต่อไปก็จะบอกเกทที่ต้องไปเปลี่ยนเครื่องตรงนี้ ซึ่งสะดวกกับผู้โดยสารดีมากครับ
หลังจากที่เดินทางมาได้ 5 ชั่วโมงนิดๆ กัปตันก็ลดระดับการบินแล้วก็ทำการ Landing ลงที่สนามบินสุวรรณภูมิอย่างปลอดภัยครับ ลงนิ่มเลย
สรุป
ถือเป็นการเดินทางที่ดีอีกครั้งนึงของผมเลยกับการบินไทยครับ การบริการรวมถึงอาหารบนเครื่องก็ยังดีถูกใจถูกปากคนไทยอย่างเราๆ เป็นอย่างดีครับ รวมถึงการเดินทางก็ออกและถึงตรงตามตารางเวลาเลยทีเดียว สำหรับใครที่เดินทางกับการบินไทยบ่อยๆ ก็อย่าลืมสะสมไมล์กับ ROP ไว้นะครับ ซึ่งจะทำให้เราสามารถนำไมล์ที่สะสมไว้มาแลกเป็นตั๋วเครื่องบินในราคาแบบที่คุ้มค่าแบบนี้ได้อีกครับ