รีวิวสายการบิน United Airlines บินกลับไทยจากอเมริกาปี 2022

Traitanit Huangsri
5 min readJul 11, 2022

--

สวัสดีครับ บทความนี้จะขอรีวิวการเดินทางกลับไทยจากเมือง Seattle รัฐ Washington สหรัฐอเมริกาด้วยสายการบินสัญชาติอเมริกันอย่าง United Airlines โดยทำการบินแบบแวะเปลี่ยนเครื่อง 2 ครั้งที่เมือง San Francisco และ Tokyo ใช้เวลาเดินทางรวมทั้งสิ้นประมาณ 24 ชั่วโมงหรือประมาณ 1 วันพอดีเลยครับ

สายการบิน United Airlines เป็น 1 ใน 4 สายการบินหลัก (Major US Airlines) ของสหรัฐอเมริกา มีฐานการบินหลักอยู่ที่เมือง Chicago รัฐ Illinois ทำการบินทั้งไฟลท์ภายในประเทศ (Domestic Flights) และไฟลท์ต่างประเทศ​ (International Flights) เป็นสายการบินที่มีเส้นทางการบินมากสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลกเลยทีเดียว นอกจากนี้สายการบิน United Airlines ยังเป็นหนึ่งในพันธมิตรสายการบินในเครือ Star Alliance ทำให้เราสามารถเลือกสะสมไมล์ร่วมกับสายการบินอื่นๆในเครือ เช่นการบินไทย, ANA ได้ด้วย ครั้งนี้ผมจองตั๋วกับ United แต่สะสมไมล์ร่วมกับ ROP ของการบินไทยได้เลยครับ

เส้นทางการบิน SEA-SFO-NRT-BKK

จองตั๋วเครื่องบิน

[Disclosure] การเดินทางครั้งนี้ผมออกค่าใช้จ่ายเองในการเดินทางเองทั้งหมด ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากสายการบินหรือบริษัท Travel Agency ใดๆ ทั้งสิ้น

ผมจองตั๋วเครื่องบินโดยการค้นหาผ่านระบบของ ​Google Flights และทำการจองตรงกับสายการบิน United Airlines เลยเพื่อให้สามารถจัดการตั๋วต่างๆ เองได้ง่าย และสำหรับใครที่จองตั๋วกับสายการบิน United ก็ขอให้ดาวน์โหลดแอพ United ไว้บนมือถือซึ่งจะช่วยให้เราสามารถ Manage Booking รวมถึงติดตามสถานะของไฟลท์ของเราได้ง่ายๆ ด้วยนะครับ ดีมากๆ

การเดินทางกลับไทยจากอเมริกาปี 2022 นี้ “ไม่ต้องมีผลตรวจ Covid-19” ใดๆ แล้วนะครับ รวมถึงถ้าเป็นคนไทยก็ไม่ต้องใช้ Thailand Pass แล้วนะครับ สิ่งเดียวที่เราต้องเตรียมก่อนไปเช็คอินเพื่อเดินทางกลับไทยก็คือ “Vaccine Passport” หรือใบรับรองการฉีดวัคซีนเท่านั้นครับ

การเดินทาง #1 SEA-SFO

Flight: UA1926

Route: Seattle (SEA)-San Francisco (SFO)

Departure Time: 08:41 am

Arrival Time: 10:58 am

Duration: 2 Hours 17 Minutes

Aircraft: Airbus A319

Class: Economy

ไฟลท์แรกเป็นการเดินทางภายในประเทศก่อนครับ โดยเริ่มต้นจากสนามบิน Seattle-Tacoma International Airport (SEA) ไปลงที่สนามบิน San Francisco International Airport (SFO) ใช้เวลาเดินทางสั้นๆ ประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้วครับ

เริ่มต้นที่สนามบิน Seattle-Tacoma Intl’ Airport

ที่สนามบิน Seattle-Tacoma (SeaTac) ในชั้น Departure Gate นั้นจะแบ่งช่องตามแต่ละสายการบินครับ ซึ่งวันนี้เราบินกับสายการบิน United จะต้องเข้าไปเช็คอินที่ Main Terminal, North Satellite Gate A2 นะครับ

บรรยากาศการ Check-in ที่สนามบิน Seatac

ช่วงนี้ที่อเมริกาคือมีผู้โดยสารเดินทางค่อนข้างเยอะมาก แนะนำว่าเราควรจะเผื่อเวลาการเดินทางไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมงก็ดีนะครับ เพราะว่าวันที่ผมเดินทางพบว่าใช้เวลาในการต่อคิวเข้า Security Checkpoints ค่อนข้างนาน

ที่ Counter Check-in ของสายการบิน United นั้นเราจะต้องทำการ Check-in ผ่าน Kiosk ด้วยตัวเอง แต่ก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยมาช่วย Confirm และตรวจเอกสารการเดินทางรวมถึงช่วยเราจัดการเรื่องการโหลดกระเป๋าให้เราอีกทีหนึ่งครับ (กระเป๋าตามตั๋วของผมคือโหลดได้ 2 ใบๆ ละ 23 kg) และไปรับกระเป๋าได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิที่กทม.ได้เลย

Kiosk Check-in แบบมีเจ้าหน้าที่สายการบินช่วยเหลือ

หลังจากทำการ Check-in เรียบร้อยแล้วก็จะได้ Boarding Pass มา 3 ใบเลยครับ คือ SEA-SFO, SFO-NRT และ NRT-BKK แต่ไฟลท์สุดท้ายต้องไปเช็คเกทที่สนามบินนาริตะที่ญี่ปุ่นอีกทีนะครับ

หลังจากนั้นเราไปผ่าน Security Checkpoint เข้าสู่เกทกัน ที่สนามบิน SeaTac นี้มีป้ายบอกเวลาด้วยว่า Security Checkpoints แต่ละจุดนั้นจะใช้เวลาต่อคิวนานแค่ไหนด้วยนะครับ ถ้าเราเลือกช่องดีๆ ก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลารอคิวนาน ช่วยประหยัดเวลาไปได้มากเลยครับ

Security Checkpoint มี Waiting Time บอกด้วย ดีมากๆ

หลังจากที่เข้ามาในเกท เนื่องจากว่าผมบินไฟลท์เช้าทำให้มีคนมาต่อคิวซื้อกาแฟที่ร้าน Starbucks กันเยอะมาก คิวยาวล้นออกมานอกร้านเลยทีเดียว

บรรยากาศภายใน Gate

วันนี้เรารอขึ้นเครื่องที่เกทเบอร์​ A10 กันครับ บินด้วยเครื่องบิน Airbus A319 เป็นเครื่องบินแบบทางเดินเดี่ยว คล้ายๆ กับ Air Asia นั่นแหละครับ ที่นั่งจัดแบบ 3–3 แต่จะมีการแบ่งที่นั่งเป็น 2 ชั้นคือ Economy ธรรมดากับ Economy Plus ซึ่งจะที่นั่งกว้างกว่าปกตินิดนึงครับ

Airbus A319 ที่พาเราบินจาก Seattle มา San Francisco ครับ

ระบบ Entertainment บนเครื่องคือเราสามารถ Stream จาก WiFi on board (ที่ไม่มี Internet) ได้เลยครับ จะไม่มีจอ IFE ให้บนที่นั่งครับ ผมลองใช้งานดูแล้วก็ลื่นไหลดีมากครับ ไม่มีปัญหาเลย

การเดินทางของเราวันนี้ค่อนข้างตรงเวลาดีเลยทีเดียวครับ และเนื่องจากเป็นการบินภายในประเทศ ดังนั้นบนเครื่องจะมีการเสิร์ฟแค่เครื่องดื่มกับ Snacks เท่านั้นนะครับ

การเดินทางแบบ Domestic Flights ในอเมริกาจะไม่ได้มีการบังคับให้ผู้โดยสารต้องใส่ Mask แล้วนะครับ แต่ก็เป็นลักษณะการ Recommend ให้ใส่มากกว่า ซึ่งหลายๆ คนก็ไม่ได้ใส่ Mask บนเครื่องบินกันเป็นเรื่องปกติแล้วครับ

หลังจากเดินทางได้ประมาณ 2 ชั่วโมง กัปตันก็เริ่มลดระดับการบินและ Landing ลงจอดที่สนามบิน San Francisco International Airport ได้เรียบร้อย ถึงประมาณ 11 โมงพอดีครับ

บรรยากาศระหว่างเดินต่อเครื่อง ถ้าเจอฝูงบินของ United Airlines ก็แปลว่าคุณมาถูกทางแล้ว!

ผมมีเวลาต่อเครื่องเพียงแค่ราวๆ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเลยต้องรีบลงจากเครื่องแล้วรีบเดินไปเกทที่จะต้องต่อเครื่องเพื่อบินไปโตเกียวอย่างรวดเร็วเลยครับ ซึ่ง Domestic Flight ของสายการบิน United จะลงจอดที่ Terminal 3 ที่สนามบิน SFO ทำให้เราต้องเดินต่อไปเพื่อเปลี่ยนไปยัง International Terminals ซึ่งของ United จะเป็น Terminal G ครับ ถ้าเดินเร็วๆ ใช้เวลาราวๆ 30 นาทีก็ถึงเกทแบบทันเวลาพอดีๆ เวลา Boarding Time เลย (ได้ความตื่นเต้นเล็กน้อย 55+)

การเดินทาง #2 SFO-NRT

Flight: UA837

Route: San Francisco (SFO)-Tokyo(NRT)

Departure Time: 12:10 pm

Arrival Time: 2:45 pm

Duration: 10 Hours 35 Minutes

Aircraft: Boeing 787–9 Dreamliner

Class: Economy

เที่ยวบินจากซานฟรานฯ ไปโตเกียววันนี้ใช้เครื่องบินลำใหญ่ Boeing 787–9 Dreamliner เลยนะครับ ใช้เวลาบินประมาณ 10 ชั่วโมงนิดๆ (ซึ่งถือว่าเร็วแล้วสำหรับไฟลท์ Trans-Pacific Route)

แผนผังที่นั่งบน B787–9 ของ United Airlines

ที่นั่งบนเครื่องมีอยู่ 3 ชั้นด้วยกัน คือ Business Class, Economy Plus และ Economy Class ครับ โดยที่นั่งชั้น Economy Class จะจัดเรียงเป็นแบบ 3–3–3 ครับ

ผู้โดยสารวันนี้คือ “เต็มลำ” เลย มองไปรอบๆ ก็คือไม่มีที่นั่งว่างเลยครับ แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการในการเดินทางช่วงนี้ที่สูงมากจริงๆ บนเครื่องก็มีระบบ IFE ให้บริการพร้อมทั้งผ้าห่ม แต่ไม่มีหมอนนะครับ และหูฟังก็มีแต่มาแจกให้ทีหลัง แต่แนะนำให้ใช้หูฟังของตัวเองดีกว่าครับ เพราะหูฟังที่แจกให้ใส่นานๆ แล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายหูเท่าไรครับ

วันนี้การเดินทางของเรากัปตันนำเครื่อง Take Off ได้ตรงเวลาเลยครับ เครื่อง Boeing 787–9 ของ United Airlines จะแตกต่างจากสายการบินอื่นๆ คือจะไม่มี Live TV on Board หรือการให้ดูช่องทีวีสดๆ บนเครื่องได้นะครับ ก็จะมีแค่หนังและซีรีส์ให้ดูซึ่ง Content ทั้งหมดก็จะเหมือนไฟลท์ที่เรามาจาก Seattle (ที่ให้ Stream ผ่านมือถือ) ทั้งหมดเลยครับ

ความกว้างของที่นั่งชั้น Economy Class สำหรับผมคิดว่ามันพอดีๆ ไม่ได้กว้างหรือแคบจนเกินไปครับ ตามข้อมูลจาก Seatguru คือ Pitch Length ยาวประมาณ 32 นิ้วครับ ที่นั่งเราสามารถเอาสาย USB มาชาร์จโทรศัพท์ได้ด้วยนะครับ มีช่องให้เสียบแต่ชาร์จช้ามากก

หลังจากเครื่องขึ้นได้ซักพักนึง พนักงานต้อนรับบนเครื่องก็เริ่มเสิร์ฟอาหารมื้อแรกครับ ซึ่งผมเลือกเมนูอาหาร “ไม่ได้” ด้วยนะ อาจจะเพราะผมนั่งอยู่แถวหลังๆ ด้วยเลยเมนูอาหารที่มีอาจจะมีไม่พอให้เลือกด้วยครับ

อาหารมื้อแรกเป็นบะหมี่ผัดกับไก่แห้งๆ กับผักสลัดและไอศครีมวานิลลา รสชาติบะหมี่ผัดคือเส้นแข็งเหมือนอุ่นมาไม่ค่อยดีเท่าไรครับ รสชาติก็ธรรมดา ออกไปทางไม่ค่อยอร่อยมากกว่าครับ แต่ผมก็กินหมดนะ ไม่รู้เป็นเพราะหิวหรือเปล่า 55+

หลังจากทานอาหารกันเสร็จ บนเครื่องก็เริ่มมีการปรับไฟให้ผู้โดยสารได้นอนพักผ่อนกันยาวๆ 4–5 ชั่วโมงเลยครับ แต่ก็อยากแนะนำให้คนที่บิน Economy ไฟล์ยาวๆ แบบนี้ลุกมาเข้าห้องน้ำ ยืดเส้นยืดสายก็จะช่วยไม่ให้เมื่อยได้มากครับ

หลังจากบินไปได้ประมาณ 8–9 ชั่วโมงเหลือเวลาอีกแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงจะถึงโตเกียว พนักงานต้อนรับบนเครื่องก็เริ่มเปิดไฟและเตรียมเสิร์ฟอาหารมื้อที่ 2 เป็นอาหารเช้า ซึ่งมื้อนี้ผมก็ยังเลือกไม่ได้เหมือนเดิม T_T

อาหารจะเป็น omelette กับไส้กรอกอะไรซักอย่างกับผลไม้ ซึ่งไม่อิ่มและไม่อร่อยเลย ออกจะเลี่ยนๆ นิดนึงนะครับ ก็กินๆ ไป

หลังจากทานอาหารเสร็จเหลือเวลาก่อนจะ Landing แค่ประมาณ 30 นาทีก็คือพนักงานต้อนรับบนเครื่องก็ดูรีบเก็บรีบทำความสะอาดทุกอย่างมากๆ ดูทุกอย่างรวดเร็วไปหมด เอาจริงๆ ก็แอบรู้สึกว่าเค้าเสิร์ฟอาหารมื้อ 2 เลทไปนิดนึงครับ ทำให้ผู้โดยสารต้องรีบๆ กิน รีบๆ เก็บไปหน่อยครับ

หลังจากนั้นกัปตันก็นำเครื่อง Landing ลงที่สนามบินนาริตะที่โตเกียวอย่างปลอดภัยครับ ถึงตามกำหนดเวลาเลยครับ

เปลี่ยนเครื่องที่สนามบิน Narita

การเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินนาริตะก็คือบรรยากาศยังเงียบเหงาอยู่นะครับ แต่มีร้านขายขนมญี่ปุ่นของฝากเปิดอยู่เหมือนเดิม ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนที่เดินทางมาเปลี่ยนเครื่องที่นี่ ไม่ค่อยมีคนญี่ปุ่นเลย ใครที่คิดถึงญี่ปุ่นก็สามารถแวะช็อปซื้อขนมญี่ปุ่นเป็นของฝากกันได้ที่นี่ครับ

ขนมและสินค้าญี่ปุ่นมีวางขายให้ได้ช็อปที่สนามบินเหมือนเดิม
Departure Board ที่สนามบินนาริตะ ก็คือโล่งๆ เลย ไฟลท์น้อยมากครับ

การเดินทาง #3 NRT-BKK

Flight: NH805 (Operated by Air Japan Co., Ltd)

Route: Tokyo (NRT)-Bangkok (BKK)

Departure Time: 6:35 pm

Arrival Time: 11:20 pm

Duration: 6 Hours 45 Minutes

Aircraft: Boeing 787–9 Dreamliner

Class: Economy

Boeing 787–9 ที่จะพาเราไปกทม. กันครับ

ไฟลท์สุดท้ายของการเดินทางครั้งนี้ เดินทางออกจากสนามบินนาริตะในช่วงเย็น ถึงกรุงเทพฯ ดึกๆ หน่อยครับ โดยไฟลท์นี้จะเป็นการให้บริการโดยสายการบิน All Nippon Airways (ANA) ซึ่งเป็นการสายการบินพันธมิตรกับสายการบิน United Airlines อีกทีนะครับ เนื่องจากว่าสายการบิน United ไม่มีไฟลท์บินมาที่เมืองไทยครับ

ช่วงเวลาที่บินเป็นช่วงเวลาที่ใกล้พระอาทิตย์ตกที่โตเกียวพอดี เราเลยได้มีโอกาส Take Off แบบดูพระอาทิตย์ตกไปด้วย สวยดีนะครับ

Amenities Kit บน B787–9 ของ ANA

ที่นั่งชั้น Economy ของ Boeing 787–9 ของ ANA นั้นจะจัดเรียงแบบ 3–3–3 นะครับ บนเครื่องก็มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก Amenities ครบเลยทั้ง หมอน ผ้าห่ม หูฟัง พร้อมนอนครับ 55+

LIVE TV on Board บน B787–9

สิ่งที่แตกต่างกับสายการบิน United Airlines ที่เครื่องบิน Type เดียวกันคือของ ANA จะมี Live TV on Board ให้ดูทีวีสดๆ บนเครื่องได้ด้วยครับ มีให้เลือกชม 3 ช่องด้วยกันคือ CNN, NHK Premium และ Sport24

กัปตันนำเครื่อง Push Back และ Take Off ได้ตรงตามตารางเลยครับ หลังจากเครื่องขึ้นไปได้ประมาณ 1 ชั่วโมง พนักงานต้อนรับบนเครื่องก็เริ่มทำการเสิร์ฟอาหารเป็นมื้อเย็นครับ เมนูในวันนี้ “เลือกได้” แล้วผมเลือกเป็นข้าวกับ Hamburg Steak อร่อยมากครับ กินหมดเลย

In Flight Meals: ข้าวกับ Hamburg Steak อร่อยดีครับ

นอกจากนี้ก็ยังมีของหวานเป็นไอศครีม “Haagen-Dazs” รสวานิลลาแจกให้ด้วยครับ อร่อยดีครับ หลังจากกินอาหารกันเสร็จแล้วก็เริ่มปิดไฟให้ผู้โดยสารได้พักผ่อนกันครับ ผมหลับยาวๆ จนเกือบถึงไทยเลย

หลังจากนั้นกัปตันก็เริ่มลดระดับเพดานบินและทำการ Landing ลงที่สนามบินสุวรรณภูมิเรียบร้อย ใช้เวลาเดินทางจริงๆ แค่ 5 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงแล้วครับ ถึงเร็วกว่ากำหนดเกือบชั่วโมงนึงเลย

หลังจากลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิก็ให้เราเตรียมเอกสารคือ Vaccine Passport ไว้เพื่อที่จะทำให้เราสามารถผ่านเข้าตม.และไปรับกระเป๋าได้ปกติเลยครับ ไม่ต้องใช้เอกสารใดๆ เพิ่มเติม ไม่ต้องมีการกักตัวใดๆ แล้วครับ

สรุป

ก็เป็นการเดินทางกว่า 24 ชั่วโมง ประมาณ 1 วันในการกลับไทยของผมนะครับ โดยสรุปก็สายการบิน United Airlines ก็การบริการโอเค แต่อาหารไม่ค่อยถูกปากเท่าไรครับ แล้วก็การจัดการเรื่องอาหารส่วนตัวมองว่ายังสู้สายการบินฝั่งเอเชียไม่ค่อยได้ครับ ส่วนสายการบิน ANA ก็บริการดีมาก อาหารอร่อย บินตรงเวลา ไม่มีจุดให้ติเลยครับ ก็ถือเป็นประสบการณ์การเดินทางกลับจากอเมริกาที่คุ้มค่าอีกครั้งหนึ่งครับ

--

--

Responses (2)