รีวิวสายการบิน Cathay Pacific บินจากฮ่องกงกลับไทยด้วย Boeing 777–300
สวัสดีครับ บทความนี้จะมารีวิวการเดินทางจากฮ่องกงกลับไทยของผมด้วยสายการบิน Cathay Pacific ในชั้นประหยัดด้วยเครื่องบิน Boeing 777–300 กันครับ
ส่วนตัวผมเคยเดินทางด้วยสายการบิน Cathay Pacific อยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่ค่อยได้มาเขียนรีวิวจริงๆ จังๆ เสียที ซึ่งส่วนตัวผมเป็นสมาชิกสะสมไมล์ Asia Miles กับทาง Cathay อยู่ด้วยจนสามารถแลกไมล์ที่สะสมไว้เป็น Air Awards ในเที่ยวบินในบทความนี้ได้ครับ จ่ายแค่ส่วนของภาษีน้ำมันและค่าธรรมเนียมสนามบินเท่านั้นครับ
รู้จักสายการบิน Cathay Pacific กันหน่อย
คงไม่ต้องอธิบายความกันมากนะครับ หลายคนก็คงจะเคยได้ยินชื่อหรือเคยใช้บริการสายการบินนี้กันมาบ้างแล้ว สายการบิน Cathay Pacific เป็นสายการบินที่ใหญ่ที่สุดของฮ่องกง ประจำการการบินอยู่ที่สนามบิน Hong Kong International Airport (HKIA) มีเที่ยวบินไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ ทั่วโลกทั้งเอเชีย อเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย มากมาย แถมยังมีชื่อเสียงในเรื่องการให้บริการที่ดีที่สุดสายการบินหนึ่งของโลก ติดอันดับ Top 10 สายการบินที่ดีที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของ SkyTrax อยู่เป็นประจำ และ Cathay Pacific ยังเป็นหนึ่งในสายการบินในเครือพันธมิตร One World ร่วมกับสายการบินชื่อดังอื่นๆ อีกมากมาย
In Town Check-in Service from Hong Kong Station
สำหรับใครที่เดินทางจากฮ่องกงไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ เราสามารถมาทำ City Airport Check-in หรือที่นี่จะเรียกว่า “In Town Check-in” ล่วงหน้าก่อนเวลาได้ถึง 24 ชม. จนถึงเวลาเดินทาง 90 นาที ซึ่งเหมาะมากๆ สำหรับใครที่จะบินกลับไทยกับ Cathay Pacific ในช่วงบ่ายหรือเย็นจนถึงดึกเลย เพราะเราสามารถที่จะนำกระเป๋ามา Check-in ตั้งแต่ในเมืองและเมื่อเช็คอินเรียบร้อยแล้วก็สามารถจะออกไปเที่ยวในเมืองต่อได้โดยที่ไม่ต้องหาที่ฝากกระเป๋าให้วุ่นวาย สะดวกสบายมากๆ เลยครับ ซึ่งในการเดินทางครั้งนี้ผมก็เลือกใช้บริการนี้เช่นกัน โดย ณ ปัจจุบันที่เขียนบทความนี้ In Town Check-in สามารถทำได้เฉพาะกับผู้โดยสารที่เดินทางกับสายการบิน Cathay Pacific เท่านั้นด้วยนะครับ สามารถอัพเดตข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.mtr.com.hk/en/customer/services/complom_checkin.html
บริการ In Town Check-in เป็นความร่วมมือกันระหว่าง MTR ผู้ให้บริการรถไฟ Airport Express และรถไฟใต้ดินในฮ่องกงและสายการบินที่จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารที่ต้องการจะเดินทางไปสนามบิน Hong Kong International Airport ด้วยรถไฟ Airport Express (AE) แล้วต้องการที่จะ Check-in โหลดกระเป๋าตั้งแต่อยู่ในเมือง สามารถมาใช้บริการได้ฟรี! เพียงแค่เรามีตั๋วรถไฟ Airport Express หรือใช้บัตร Octopus แตะเข้าใช้บริการเท่านั้น ซึ่งราคาค่าตั๋วของ Airport Express ก็จะมีหลายแบบ ราคาต่อหนึ่งคนอยู่ที่ $115 HKD แต่ถ้ามาหลายคนสามารถซื้อตั๋วแบบ Group ได้ซึ่งจะได้ราคาที่ถูกลงไปอีกครับ หรือถ้าใครจะเลือกซื้อตั๋วจาก Travel Agency เช่น Klook แบบผมก็ได้ซึ่งก็จะได้ราคาที่ถูกกว่าไปซื้อที่สถานีเล็กน้อยครับ
การมาใช้บริการ In Town Check-in นั้นเราจะต้องเดินทางมาที่สถานี Hong Kong Station (ปัจจุบันมีให้บริการที่สถานีนี้สถานีเดียว) ซึ่งถ้าใครที่นั่งรถไฟใต้ดิน MTR มาก็สามารถมาลงที่สถานี Central แล้วเดินต่อมาเรื่อยๆ ก็จะเจอป้าย In Town Check-in ให้เราเดินตามป้ายมาเรื่อยๆ ได้เลยครับ
เมื่อมาถึงเกทที่จะเข้าสู่ In-Town Check-in แล้วให้ใช้บัตร Octopus แตะออกหนึ่งครั้งเป็นการแตะออกจากสถานี Central หลังจากนั้นให้ต่อคิวเพื่อขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น G เพื่อทำ In-Town Check-in ต่อไป
เมื่อขึ้นมาถึงชั้น G แล้วก็จะเจอป้ายให้เราเลี้ยวไปทำการเช็คอินได้เลย ซึ่งปัจจุบันจะทำได้กับเฉพาะสายการบิน Cathay Pacific เท่านั้น สายการบินอื่นๆ ต้องคอยตามอัพเดตเอาหลังจากนี้ที่เว็บไซต์ของ MTR ที่โพสไว้ด้านบนนะครับ โดย In-Town Check-in เปิดให้บริการตั้งแต่ 6am-3pm เท่านั้นนะครับ
ซึ่งก่อนจะเข้าไปเช็คอินได้เราจะต้องมีตั๋วของ Airport Express ก่อน ในเคสของผมคือซื้อตั๋วมาจาก Klook ก่อนหน้านี้แล้วก็สามารถนำ QR Code ใน Voucher สแกนผ่านเกทเข้าไปเช็คอินได้เลย ซึ่งเราจะต้องเก็บ QR Code นี้ไว้ดีๆ เพราะจะต้องใช้ในการกลับมาขึ้นรถไฟหลังจากนี้อีกทีนะครับ แต่ระบบจะไม่มีการคิดเงินเพิ่มแต่อย่างใดแล้วครับ
เมื่อผ่านเกทเข้าไปแล้วเราก็สามารถเข้าไปเช็คอินตามเค้าเตอร์เช็คอินเหมือนที่สนามบินได้เลยครับ หลังจากเช็คอินโหลดกระเป๋าเรียบร้อยแล้วก็จะได้รับ Boarding Pass และ Baggage Tag มาแบบนี้เลย เมื่อเราไปถึงสนามบินก็ไม่ต้องเสียเวลาเช็คอินแล้วสามารถเดินผ่านตม.ไปยังเกทรอขึ้นเครื่องได้เลย ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาที่สนามบินไปได้มากครับ
การเดินทางไปสนามบิน
หลังจากเราออกไปเที่ยวต่อเสร็จแล้วเราจะต้องกลับมาขึ้นรถไฟ Airport Express ที่สถานี Hong Kong Station (หรือจะไปขึ้นที่สถานีอื่นของ AE ก็ได้) โดยใช้ตั๋วที่เราแตะเข้าไปทำ In-Town Check-in แตะเข้า Platform ของรถไฟที่ชั้น L2 ได้เลย โดยรถไฟ Airport Express มีความถี่ออกจากสถานี Hong Kong Station ไปยัง Hong Kong International Airport ทุกๆ 10 นาที ถี่ดีมากเลยครับ
เมื่อขึ้นมาบนรถไฟก็จะเห็นเป็นที่นั่งแบบ 2–2 เบาะนั่งสบายกว้างขวาง และมีที่ให้เราสามารถนำกระเป๋าเดินทางมาวางได้เพิ่มเติมอีกครับ
รถไฟ Airport Express ที่วิ่งจาก Hong Kong Station ไปยังสนามบิน HKIA จะจอดเพียง 3 สถานีเท่านั้นคือสถานี Kowloon, สถานี Tsing Yi และสถานี Airport ใช้เวลาเดินทางราวๆ 30 นาทีเท่านั้น รวดเร็วมากๆ
การเดินทาง BKK-HKG
Flight: CX701
Route: Hong Kong (HKG)-Bangkok (BKK)
Departure Time: 4:05 pm
Arrival Time: 6:15 pm
Duration: 3 Hours 10 Minutes
Aircraft: Boeing 777–300 (B-HNF)
Class: Economy
เมื่อเดินทางมาถึงสนามบิน Hong Kong International Airport (HKIA) แล้วเราสามารถเดินตัวปลิวๆ ผ่านตม. และเข้าไปรอขึ้นเครื่องที่ Gate ได้เลย แต่สิ่งที่เราควรจะเช็คเพิ่มก็คือหมายเลขเกทที่เราจะขึ้นเครื่อง เพราะตอนที่เราทำ In-Town Check-in นั้นจะยังไม่รู้เลขเกทที่จะขึ้นเครื่อง เราจะต้องมาเช็คที่สนามบินอีกทีนะครับ ซึ่งเกทของไฟลท์ CX701 ของเราวันนี้อยู่ที่เกท 60 ครับ
ด้านในโซน Duty Free ของสนามบิน HKIA มี Shop ของ Disneyland เปิดให้บริการขายของที่ระลึกของ Disney อยู่ด้วยนะครับ เผื่อถ้าใครอยากจะซื้อกลับไปเป็นที่ระลึกเพิ่มจากสวนสนุกดีสนีย์ก็มาเก็บตกซื้อจากในสนามบินได้
เกท 60 ของเราจะต้องนั่งรถไฟเชื่อมภายในสถานีมาลง 1 ต่อนะครับ แล้วก็เดินตามป้ายมาเรื่อยๆ ก็จะเจอป้ายเกทของเราใหญ่อลังการสวยงามแบบนี้
เมื่อมาถึงเราก็จะเห็นเครื่องบิน Boeing 777–300 ที่จะพาเรากลับไทยกันมาจอดรออยู่ด้านหน้าแล้ว สำหรับคนชอบเครื่องบินแบบเรานั่งมองวิวเครื่องบินยังไงก็ไม่เคยเบื่อเลยครับ ชอบอย่างหนึ่งที่สนามบิน HKIA คือเค้าทำกระจกให้กว้างและเป็นกระจกใส(แบบสะอาดไร้ฝุ่น) ทำให้เรานั่งรอขึ้นเครื่องมองวิวเครื่องบินแบบชัดเจนมากๆ
ระหว่างรอขึ้นเครื่องผมซื้อเกี๊ยวซ่าทอดสไตล์เซี่ยงไฮ้จากร้าน Cheung Hing Kee สาขา Central กับทาร์ตไข่จากร้าน Bakehouse สาขา Central มากินระหว่างรอ อร่อยมากๆ ใครมาฮ่องกงอย่าลืมแวะชิมสองร้านนี้นะครับ ทีเด็ดเลย
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็รอขึ้นเครื่องกันครับ วันนี้ Boarding Time คือ 3:25pm ผู้โดยสารเยอะเลยทีเดียว
ผมชอบอย่างหนึ่งในสนามบินฮ่องกงคือเกทเค้าตกแต่งดูทันสมัยมาก มีการใช้จอ LED แสดงผลข้อมูลเที่ยวบินต่างๆ เป็น Digitalize หมดเลย ดูเจ๋งดีนะครับ
วันนี้เราบอร์ดกันตรงเวลา ที่นั่งของ Boeing 777–300 ของไฟลท์ CX701 จะเป็นรุ่นที่ setting แบบ 777–300(77P) คือมีที่นั่ง Business Class 42 ที่นั่งและที่นั่งชั้น Economy Class อีก 396 ที่นั่งถือว่าเป็นไฟลท์ที่รองรับจำนวนผู้โดยสารได้ค่อนข้างมากเลยครับ และในชั้น Economy มีการจัดเรียงที่นั่งแบบ 3–4–3 ผมเลือกที่นั่ง 71A ได้นั่งริมหน้าต่างฝั่งซ้ายของเครื่องและโชคดีคืออีกสองที่นั่งข้างๆ ไม่มีคนนั่งทำให้ผมนั่งคนเดียวทั้งแถวเลย ฟินมากๆ
เบาหน้าที่นั่งมีจอ In-Flight Entertainment ให้เป็นระบบ Touch Screen ทั้งหมด ไม่มี Remote Control ให้ แต่ทัชสกรีนลื่นมากก ชอบสุดครับ ที่นั่งก็ค่อนข้างกว้างดีเลย ผมสูง 177cm เข่าไม่ติด นั่งสบายมากครับ ด้านล่างจอจะแบ่งเป็นสองชั้นคือที่สำหรับวางแก้วน้ำและอีกชั้นเป็น Tray สำหรับทานอาหาร ผมชอบ setting แบบนี้มากเลย เพราะเราสามารถชาร์ตมือถือไปด้วย กินข้าวไปด้วยแบบที่มีที่วางมือถือไม่ให้เกะกะชั้นวางอาหาร
หลังจากผู้โดยสารขึ้นเครื่องกันครบแล้ว กัปตันก็ประกาศต้อนรับและค่อยๆ Push Back เครื่องเพื่อ Taxi และเตรียมนำเครื่อง Take-off ออกเดินทางกันครับ วันนี้ออกตรงเวลาดีมากเลยครับ
ช่วงที่ Take Off พอได้นั่งริมหน้าต่างก็ทำให้เราได้มองเห็นวิวเกาะฮ่องกงแบบเต็มๆ ตา สวยงามครับ
เมื่อเครื่อง Take off ได้แปบเดียว พนักงานต้อนรับก็เริ่มเตรียมเสิร์ฟอาหารกันเลยครับ เนื่องจากเป็นไฟลท์ระยะสั้นด้วยครับ เมนูอาหารวันนี้ผมเลือกเป็นข้าวแกงกะหรี่ซีฟู้ด อร่อยมากครับ อาหารบนเครื่องของ Cathay Pacific ไม่เคยทำให้ผมผิดหวังแม้แต่ครั้งเดียว อร่อยทุกมื้อจริงๆ
อาหารวันนี้เสิร์ฟมาพร้อมผลไม้ ขนมปัง และไอศครีม Haagen-Dazs ซึ่งเป็น Signature ของ Cathay เลยชอบมาก ผมกินเกลี้ยงหมดเลย
หลังจากทานข้าวเสร็จก็เริ่มพักผ่อนกัน ผมเลือกจะหยิบ iPad ขึ้นมาดูซีรีส์ที่โหลดไว้ ผมชอบ Setting ของที่นั่งเครื่องบิน Cathay รุ่นนี้มาก เพราะทำให้เราดูซีรีส์ไปพร้อมดู Flight Map และยังนำแก้วน้ำวางอยู่ด้านบนได้อีกด้วย อยากให้หลายๆ สายการบินนำ Setting นี้ไปใช้มากๆ เลยครับ มันสะดวกสบายมากๆ
หลังจากเดินทางได้ราว 2 ชม. เครื่องบินก็บินเข้าสู่น่านฟ้าประเทศไทย วันนี้อากาศแจ่มใสดีมาก ทำให้เรามองเห็นวิวเมืองไทยเราชัดเจนดีมากๆ เลยครับ มองเห็นท้องทุ่งนาจากบนฟ้าแบบชัดมาก
หลังจากนั้นเครื่องก็บินเข้าใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ กัปตันก็เริ่มลดระดับเพดานบินและนำเครื่องบินลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิอย่างปลอดภัย Landing ลงนิ่มมากๆ ใช้เวลาเดินทางรวมราวๆ 2 ชม. 58 นาทีครับ
สรุป
สายการบิน Cathay Pacific ยังเป็นสายการบินหนึ่งในดวงใจของผม ทุกครั้งที่บินกับ Cathay ได้รับการบริการที่ไม่มีที่ติ อาหารบนเครื่องก็อร่อย In-flight Entertainment ก็อัพเดตใหม่น่าดูตลอด และเครื่องบินก็มีการปรับปรุงให้ดูใหม่เสมอ ถือเป็นไฟลท์การเดินทางที่ผมประทับใจมากที่สุดในปี 2023 นี้เลย ถ้ามีโอกาสมาฮ่องกงหรือเดินทางไปที่ไหนผมก็อยากจะเลือก Cathay Pacific เป็นตัวเลือกแรกๆ อีกอย่างแน่นอน Happy Flying!